เปิดประตูแอนฟิลด์: เอายังไงกับ ‘เบอร์ 6’ ?
ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีม ‘ยิงมา ยิงกลับ ไม่โกง’ อีกครั้งในฤดูกาลนี้ หลังจากที่วลีดังกล่าวเคยใช้อย่างแพร่หลายในฤดูกาล 2013/14
ซีซั่นนั้น ‘หงส์แดง’ มีเกมรุกที่สะแด่วไปเลยอีน้องนำโดยมี หลุยส์ ซัวเรซ ที่ทำทุกอย่างในแดนหน้า ผนึกกำลังกับคู่ขาสายเซิ้ง ดาเนียล สเตอริดจ์ และมีดาวรุ่งพุ่งแรงทั้ง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ คอยบุกทะลวงตาข่าย อีกทั้งมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นพี่ใหญ่บรรชาเกมแดนกลาง
บทสรุปซีซั่นนั้น ลิเวอร์พูล ซัลโวไป 101 ตุง แต่กลับโดนทะลวงคืนมากถึง 50 ประตู น้อยกว่าทีมที่เกือบตกชั้นอย่าง ฮัลล์ ซิตี้ แค่ 3 ลูกเท่านั้น และบทสรุปของฤดูกาลนั้นก็อย่างที่เราทราบกันว่า เป็นได้เพียงรองแชมป์
ปัญหาดังกล่าวดูจะกลับมาอีกแล้วในซีซั่นนี้ เมื่อลงสนามไปแล้ว 11 นัดในทุกรายการ ถูกขึ้นนำไปก่อนถึง 7 เกม หรือหากจะนับเฉพาะในพรีเมียร์ลีกก็ 5 จาก 8 เกม นี่คือสถิติที่เห็นได้ชัดว่าเกมรับของทีมมีปัญหาอย่างมาก ขนาดว่ามีสุดยอดนายทวารอย่าง อลิสสัน เบคเกอร์ เฝ้าเสา เรายังเสียหายถึงขนาดนี้
ส่วนหนึ่งเลยที่ ลิเวอร์พูล ขาดหายไป คือผู้เล่นในบทบาทมิดฟิลด์ตัวตัดเกมที่ทาง ฟาบินโญ่ คอยประจำการมาหลายปี แต่กับลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตอนนี้ต้องฝืนใช้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มายืนตรงนั้น ซึ่งพูดตามตรงคือ เสียของมากๆ เพราะนักเตะดีกรีแชมป์โลกผู้นี้ มีดีในการจะสร้างสรรเกมเกินกว่าจะต้องมาคอยปัดกวาดเช็ดถู ลูกส่วนกลับ ซึ่งก็ไม่ใช่จุดเด่นของตัวเองอีกด้วย
หรือนักเตะใหม่ที่เล่นตำแหน่งนี้โดยธรรมชาติอย่าง วาตารุ เอ็นโด ก็ดูแล้วจะยังเกรดไม่ถึง เพราะขนาดเกมที่เล่นกับ ยูเนียน แซงต์-จิลัวส์ ยังทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานจนถูกเปลี่ยนออกตั้งแต่ช่วงพักครึ่ง และเกมถัดมา ไม่ได้มีโอกาสสัมผัสพื้นหญ้า แม้แต่นาทีเดียว
ช่วงเวลาจากตรงนี้จนถึงตลาดเดือนมกราคม ซึ่งคิดว่าสุดท้ายทีมคงไม่ซื้ออยู่ดี ความหวังเดียวในตอนนี้คือ อยากให้ สเตฟาน ไบจ์เซติช หายเจ็บ และกลับมาประจำการตรงนี้อีกครั้ง แต่แน่นอนว่าคำถามที่จะตามมาคือ “เราจะฝากความหวังไว้กับดาวรุ่งได้มากแค่ไหน?”
เท่าที่มี และเท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่ดี ถ้าหากว่าเป้าหมายเป็นเพียงแค่ ท็อปโฟร์ แต่เมื่อผ่านไป 8 นัด ตามหลังจ่าฝูงแค่ 3 คะแนน จะไม่ให้คิดถึงแชมป์ คงดูจะยอมแพ้ง่ายเกินไป ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ หวังว่าจะมีการเสริมทัพในตลาดหน้าหนาว เพื่อความหวังเล็กๆน้อยๆในการที่จะได้เฮอย่างสุดเสียงเมื่อจบฤดูกาล
เขียนโดย The Lite Team.